ยืดอายุแบตเตอรี่รถยนต์ เทคนิคและเคล็ดลับเพียบ ลองศึกษาดูแล้วจะรู้

ยืดอายุแบตเตอรี่รถยนต์ เทคนิคง่ายๆจากประสบการณ์เรา

ยืดอายุแบตเตอรี่รถยนต์ นับว่าเป็นวิธีการที่ช่วยให้ท่านประหยัดเงินในกระเป๋าได้ดี. นับเศรษฐกิจสมัยนี้เชื่อว่าทุกคนอยากที่จะได้ของใช้ที่มีอายุงานนานคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป. แบตเตอรี่รถยนต์ก็เป็นอีกสินค้าหนึ่งที่หลายคนอยากจะให้แบตเตอรี่ที่เราเองซื้อมานั้นมีอายุงานที่ยืนยาวตราบเท่านานแสนนานเพื่อให้คุ้มค่ากับเงินที่เสียไป มีหลายบทความที่พยายามเขียนบอกว่าควรทำอย่างไรบ้างถึงจะทำให้แบตเตอรี่รถยนต์ที่ใช้มีอายุยาวนาน บางบทความก็คาดเดา บางบทความก็เสนอขายสินค้าต่างๆนานาที่ช่วยยืดอายุแบตเตอรี่ ต่อจากนี้ท่านจะได้ข้อมูลจริงของจริงดังต่อไปนี้

การ ยืดอายุแบตเตอรี่รถยนต์ เริ่มต้นจากการที่ท่านเลือกซื้อแบตเตอรี่ก่อน การเลือกซื้อแบตเตอรี่รถยนต์เป็นอะไรที่ตัดสินในขั้นต้นว่าท่านจะใช้แบตเตอรี่ได้นานเท่าไร ในความเป็นจริงแล้วแบตเตอรี่รถยนต์มีอายุการใช้งานประมาณ 2.5 ปีหลังจากวันผลิตหรือ 80,000 กิโลเมตร ดั้งนั้นวิธีเลือกซื้อแบตเตอรี่รถยนต์ที่ให้ได้ของใหม่จากโรงงานคือซื้อจากตัวแทนจำหน่ายตรงจากโรงงานรับรองได้ว่าท่านจะได้ของใหม่ที่แท้จริง การที่ท่านซื้อจากตัวแทนจำหน่ายจากโรงงานท่านจะได้รับใบกำกับภาษีเพื่อยืนยันได้ว่าร้านแบตเตอรี่รถยนต์เหล่านั้นได้รับสินค้าและภาษีขายจากโรงงาน และเมื่อร้านเหล่านั้นสามารถออกภาษีขายต่อให้ท่านได้นั่นหมายความว่าสินค้าเหล่านั้นมีที่มาที่ไปจากโรงงานจริง

มากไปกว่านั้นถ้าจะต้องเลือกซื้อแบตเตอรี่รถยนต์ที่มีขนาดความจุของแอมป์ให้ตรงกับขนาดของเครื่องยนต์ ดังต่อไปนี้

• เครื่องยนต์1,000 ซีซี – 1,500 ซีซี ควรใช้แบตเตอรี่รถยนต์ที่มีความจุของแอมป์ 35 – 45 แอมป์
• เครื่องยนต์1,500 ซีซี – 2,000 ซีซี ควรใช้แบตเตอรี่รถยนต์ที่มีความจุของแอมป์ 45 – 60 แอมป์
• เครื่องยนต์2,000 ซีซี – 2,500 ซีซี ควรใช้แบตเตอรี่รถยนต์ที่มีความจุของแอมป์ 60 – 80 แอมป์
• เครื่องยนต์2,600 ซีซี – 3,000 ซีซี ควรใช้แบตเตอรี่รถยนต์ที่มีความจุของแอมป์ 85 – 100 แอมป์

อันดับต่อไปเมื่อท่านได้แบตเตอรี่รถยนต์ใหม่แล้ว หลังจากติดตั้งเปลี่ยนแบตเตอรี่รถยนต์แล้วท่านจะต้องเช็คไดชาร์จ ซึ่งขั้นตอนนี้สำคัญมากถ้าไดชาร์จของท่านทำงานผิดปกตินั่นหมายความว่าแบตเตอรี่รถยนต์ลูกนั้นจะใช้งานได้ไม่ถึงปี ในการตรวจสอบค่าไดชาร์จจะต้องใช้ Multimeter ซึ่งสามารถแสดงค่าผลของไดชาร์จเป็นตัวเลขได้ ไดชาร์จปกติจะผลิตกระแสไฟเพื่อป้อนในรถยนต์ประมาณ 14.00 โวลต์ +/- ไม่เกิน 0.2 ขณะเปิดไฟหน้าและแอร์ (AC) สุด ท่านสามารถดูตัวอย่างการตรวจสอบไดชาร์จได้ตามวีดีโอข้างล่างนี้

เมื่อค่าไดชาร์จปกติแล้ว ต่อไปท่านจะต้องดูแลบำรุงรักษาแบตเตอรี่รถยนต์ตามชนิดของแบตเตอรี่ที่ท่านซื้อมา ถ้าท่านใช้แบตเตอรี่ชนิดน้ำ ท่านจะต้องคอยเติมน้ำกลั่นอย่างน้อยเดือนละครั้ง ห้ามให้น้ำกลั่นลดลงต่ำกว่าแผ่นธาตุเป็นอันขาด ถ้าต่ำกว่าแผ่นธาตุนั้นหมายถึงแบตเตอรี่ลูกนั้นจะใช้งานได้ไม่เกิน 1 – 2เดือนแน่นอน ในกรณีที่ท่านใช้แบตเตอรี่ชนิดกึ่งแห้ง ท่านจะต้องดูแลน้ำกลั่นอย่างน้อย 4-6 เดือนครั้ง ห้ามน้ำกลั่นในแบตเตอรี่ลดลงต่ำกว่าแผ่นธาตุเหมือนกัน สำหรับท่านที่ไม่ต้องการดูแลคอยเติมน้ำกลั่น ท่านควรจ่ายแพงอีกนิดเพื่อใช้แบตเตอรี่รถยนต์ชนิดแห้ง

ขั้นตอนสุดท้ายคือการดูแลรักษาความสะอาดภายนอกแบตเตอรี่รถยนต์ โดยท่านจำเป็นจะต้องเอาน้ำร้อยหรือ Sonax ฉีด และราดไปบนขั้นบวกและขั้วลบของแบตเตอรี่เพื่อขจัดคราบขี้เกลือและสิ่งสกปรกออกอย่างน้อยเดือนละครั้ง แล้วใช้ผ้าทำความสะอาดบริเวณแบตเตอรี่และขั้วให้แห้ง

หากท่านดูแลรักษาแบตเตอรี่เป็นอย่างดีตามที่กล่าวมา พร้อมกับเลือกซื้อแบตเตอรี่รถยนต์ตรงตามรุ่นรถยนต์ของท่าน เรารับรองว่าแบตเตอรี่ที่ท่านใช้จะมีอายุงานเท่าที่แบตเตอรี่ลูกนั้นควรจะเป็นคือ สำหรับรถยนต์ญี่ปุ่นอายุการใช้งานแบตเตอรี่อยู่ที่ 2.0ปี หรือไม่เกิน 80,000 กม (กรณีใช้รถยนต์ในการจราจรไม่ติด) หรือ 50,000 กม (กรณีใช้รถยนต์ในการจราจรแออัด) สำหรับรถยนต์ยุโรปอายุการใช้งานแบตเตอรี่อยู่ที่ 2.5ปี หรือไม่เกิน 80,000 กม (กรณีใช้รถยนต์ในการจราจรไม่ติด) หรือ 60,000 กม (กรณีใช้รถยนต์ในการจราจรแออัด)

ยืดอายุแบตเตอรี่รถยนต์ โดยเทคนิคทั่วไป

1. สิ่งสำคัญคือต้องรักษาความสะอาดของแบตเตอรี่เพื่อรักษาประสิทธิภาพและยืดอายุการใช้งาน ใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำเช็ดแบตเตอรี่เป็นประจำ
2. การเดินทางระยะสั้นอาจทำให้ไม่สามารถชาร์จแบตเตอรี่จนเต็มได้ ซึ่งอาจนำไปสู่การสะสมของผลึกตะกั่วซัลเฟตบนแผ่นแบตเตอรี่ สิ่งนี้สามารถลดความจุของแบตเตอรี่ในการเก็บประจุ พยายามเดินทางให้นานขึ้นหากเป็นไปได้เพื่อชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็ม
3. ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้ปิดระบบไฟฟ้าทั้งหมดเมื่อเครื่องยนต์ไม่ทำงาน เนื่องจากการเปิดทิ้งไว้อาจทำให้แบตเตอรี่หมดได้
4. ตรวจสอบให้แน่ใจว่าขั้วแบตเตอรี่ไม่มีการกัดกร่อนหรือเศษผง สิ่งนี้สามารถขัดขวางการไหลของกระแสไฟฟ้าเข้าและออกจากแบตเตอรี่ หากจำเป็น ให้ทำความสะอาดขั้วต่อด้วยแปรงลวด
5. ทางที่ดีควรหลีกเลี่ยงอุณหภูมิที่สูงเกินไปเมื่อต้องสัมผัสกับแบตเตอรี่รถยนต์ของคุณ หากเป็นไปได้ ให้จอดรถในพื้นที่ปิด เช่น โรงรถ เพื่อป้องกันความร้อนหรือความเย็นจัด
6. หากคุณไม่ได้ขับรถบ่อยๆ แบตเตอรี่อาจสูญเสียพลังงานและหมดลงในที่สุด เพื่อให้แบตเตอรี่มีประจุไฟฟ้าและยืดอายุการใช้งาน ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้ขับรถเป็นประจำ
7. ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้ตรวจสอบแบตเตอรี่ของคุณเป็นประจำโดยผู้เชี่ยวชาญเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาใดๆ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้เปลี่ยนแบตเตอรี่ตามที่ผู้ผลิตหรือช่างเทคนิคแนะนำ